ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite

สร้างหุ่นสวย สลายไขมัน พร้อม กระชับผิวด้วยโปรแกรมดูดไขมัน BodyTite Pro

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

จากขาพลัสไซส์ สู่ขาเรียวสวย ทุกการเคลื่อนไหว! ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro

ยกระดับการดูดไขมัน จากพลัสไซส์สู่ XS สวยได้ในครั้งเดียว! ด้วยการดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรมBodytite

ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรมbodytite pro

     ไขมันสะสมในร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน หน้าท้อง หรือสะโพก แต่ที่หลายๆ คนมักเจอปัญหาก็คือ “ต้นขา” ถึงแม้บางคนจะมีรูปร่างตัวเล็ก แต่กลับพบว่าขาใหญ่จนไม่มั่นใจ การออกกำลังกายก็ไม่ใช่ทางออกเสมอไป จริงอยู่ที่สามารถช่วยลดไขมันสะสม และปรับให้ขาดูเรียวเล็ก เฟิร์ม กระชับขึ้นได้ แต่อาจจะใชัระยะเวลาที่นาน และต้องอาศัยความมีวินัย และความสม่ำเสมอ เนื่องจากไขมันสะสมที่ต้นขามักจะเป็นจุดที่เรียกได้ว่าลดได้ยากที่สุดเลยก็ว่าได้

     ลองคิดตามกันไปนะคะ หากค้นพบทางออกที่สามารถช่วยสลายไขมันสะสมได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยกระชับผิวในคราวเดียวกัน จะดีแค่ไหน? แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากมีรูปร่างที่เพรียวกระชับและมั่นใจในทุกมุมมองสำหรับใครที่กำลังมองหา วิธีการลดไขมันต้นขาที่ได้ผลและเห็นผลเร็ว การดูดไขมันต้นขา (Thigh Liposuction) การดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite ด้วยโปรแกรมBodytite สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการสลายไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน ให้คุณได้อวดขาเรียวสวย มั่นใจในทุกมุมมอง ทุกสไตล์การแต่งตัว ใส่ Bikini อวดหุ่นสวยแซ่บ หรือ ใส่ขาสั้น โชว์เรียวขาได้อย่างมั่นใจ โดยพักฟื้นน้อย และไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite ถือว่าตอบโจทย์ที่สุดค่ะ

ไขมันต้นขาคืออะไร?

     ไขมันต้นขา คือการสะสมของเซลล์ไขมันบริเวณต้นขา มักเป็นบริเวณยอดฮิตที่เกิดการสะสมของไขมันได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากขึ้น เมื่อมีการสะสมไขมันจำนวนมาก ทำให้ขาใหญ่ เนื้อเหลง ไม่กระชับ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดผิวหนังหย่อนคล้อย และยังส่งผลให้เกิดผิวเปลือกส้ม หรือเซลลูไลท์ (Cellulite) ได้หากมีการสะสมของไขมันที่มากจนเกินไป.         สาเหตุที่ทำให้ไขมันสะสมในบริเวณของต้นขานั้น อาจเกิดได้หลากหลายปัจจุย เช่น การรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ในปริมาณที่มากกว่าความจำเป็น ไม่ออกกำลังกาย รวมไปถึงปัจจัยทางพันธุกรรม และฮอร์โมน ก็ส่งผลต่อไขมันสะสมในร่างกายได้เช่นกัน     

รูปร่างผอม น้ำหนักตัวน้อย แต่ต้นขาใหญ่ เพราะอะไร?

หลายคนอาจตั้งคำถามว่าผอม แต่ทำไมต้นขาใหญ่ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นขาดูใหญ่ มีดังนี้:

  • การสะสมไขมันและเซลลูไลท์: การสะสมไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา และสะโพก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขาดูใหญ่ โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มในการสะสมไขมันบริเวณนี้มากกว่าบริเวณอื่น นอกจากนี้ เซลลูไลต์ที่สะสมในชั้นผิวหนังยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียน และทำให้ขาดูใหญ่ขึ้นด้วย
  • การมีขนาดกล้ามเนื้อใหญ่: การใช้งานกล้ามเนื้อต้นขาอย่างหนัก เช่น การออกกำลังกายที่มุ่งเน้นสร้างกล้ามเนื้อขา หรือการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานต้นขามาก ๆ เช่น วิ่งหรือปั่นจักรยาน อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อขามีขนาดใหญ่ขึ้น และทำให้ต้นขาดูใหญ่ขึ้นเช่นกัน
  • พันธุกรรม: ปัจจัยทางกรรมพันธุ์มีผลอย่างมากในการกำหนดลักษณะรูปร่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการสะสม
    ไขมันและขนาดของกล้ามเนื้อ บางครอบครัวอาจมีสมาชิกที่มีขาใหญ่เป็นลักษณะเด่น ซึ่งบางครั้งการเปลี่ยนแปลง
    นี้อาจหลีกเลี่ยงได้ยากค่ะ

ดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro คืออะไร?

ดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro คืออะไร?

    ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro คือเทคโนโลยีการดูดไขมัน สลายไขมันส่วนเกิน โดยใช้พลังงาน Radio-Frequency Assisted Liposuction (RFAL)  ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการดูดไขมันและการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF)เพื่อทำให้ไขมันถูกสลายและถูกดูดออกจากร่างกาย พร้อมกระชับผิวในขั้นตอนเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการ “ดูดไขมันต้นขา”เพราะนอกจากการดูดสลายไขมันที่แม่นยำแล้วนั้น ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับต้นขาที่มีไขมันส่วนเกิน ทำให้ผิวที่มีเซลลูไลท์ หรือผิวหย่อน ไม่กระชับ เทคนิคนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดไขมันในบริเวณต้นขา แต่ยังช่วยกระชับผิวให้ตึงขึ้น กระชับ   การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันบริเวณต้นขาแบบรวดเร็วและปลอดภัย ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องการทำซ้ำ และไม่ต้องพักฟื้น พร้อมได้รับการยอมรับมาตราฐานจาก US FDA. อีกด้วย

     แต่เดิมมีการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี BodyTite แต่ต่อมาได้มีการพัฒนาฟังก์ชั่นที่ทำให้ตอบโจทย์กับปัญหาไขมันต้นขา และต้องการกระชับผิวหย่อนคล้อยในเวลาเดียวกัน จนกลายมาเป็นรุ่น “BodyTite Pro” พร้อมฟังก์ชั่นในการทำงานที่หลากหลายมากขึ้น BodyTite Pro มาพร้อมด้วย  3 Handpiece หลักที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการดูดไขมันและกระชับผิวในแต่ละบริเวณของร่างกายอย่างเหมาะสมที่สุด ได้แก่:

  1. BodyTite Handpiece
  • สำหรับดูดไขมันในบริเวณขนาดใหญ่ เช่น ต้นแขน หน้าท้อง สะโพก ต้นขา มีขนาดเพียง 3-4 mm เท่านั้น
  • ใช้คลื่น RFAL (Radio-Frequency Assisted Liposuction) เพื่อสลายไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียวกัน 

2. FaceTite Handpiece

  • ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบริเวณเล็ก ๆ และบอบบาง เช่น ใบหน้า ลำคอ และใต้คาง
  • ช่วยกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพ  มีขนาดเพียง 3-4 mm เท่านั้น

3. AccuTite Handpiece

  • เหมาะสำหรับการดูดไขมันในบริเวณเล็กและเข้าถึงยาก เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม หรือใต้คาง
  • ใช้สำหรับการเก็บรายละเอียดในจุดที่ต้องการความแม่นยำสูงกว่าบริเวณอื่นๆ

หลักการทำงานของเครื่อง BodyTite Pro

    ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro เป็นเทคโนโลยีการดูดไขมันที่ใช้ คลื่นความถี่วิทยุ (Radio-Frequency Assisted Liposuction – RFAL) ซึ่งทำงานผ่านการใช้พลังงานความร้อนในการรักษาอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียสถูกส่งออกจากเครื่องผ่านเข็มทู่ที่สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง
เพื่อทำลายไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว โดยมีหลักการที่สำคัญแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การสลายไขมัน และ การกระชับผิว

1. การสลายไขมันด้วยคลื่น RF (Radio Frequency Assisted Liposuction – RFAL)

  • เครื่อง BodyTite Pro จะส่งคลื่นความถี่วิทยุที่มีอุณหภูมิประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส ไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • คลื่น RF จะช่วยทำให้เซลล์ไขมัน สลายตัว และสามารถดูดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ความร้อนที่เกิดขึ้นยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่ทำการรักษาทำให้ร่างกายสามารถขจัดเซลล์ไขมันที่สลายตัว
    ออกได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

2. การกระชับผิว

  • คลื่น RF ที่ถูกปล่อยออกจากเครื่อง BodyTite Pro ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังจากการดูดไขมัน สามารถกระชับผิวได้ในเวลาเดียวกัน 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวมีความกระชับและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ต้นขาเล็กลง เพรียว พร้อมผิวที่กระชับเรียบเนียนขึ้น

โปรแกรมBodyTite Pro สามารถดูดไขมันต้นขาบริเวณใดได้บ้าง?

ไขมันสะสมบริเวณต้นขานั้น แบ่งออกเป็นหลายส่วน ซึ่งแต่ละเคสมีไขมันสะสมแตกต่างกัน มาดูกันว่าไขมันสะสมบริเวณต้นขา แบ่งเป็นบริเวณใดบ้าง ที่สามารถทำการรักษาดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ได้ค่ะ

  1. ต้นขาด้านใน (Inner Thighs)
  • ผู้ที่มีต้นขาด้านในเสียดสีกัน ทำให้เดินไม่สะดวก หรือที่เรียกว่า “ขาเบียด”
  • การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro จะช่วยให้ขาดูเรียวขึ้น และเว้นช่องว่างระหว่างขา (Thigh Gap)
  1. ต้นขาด้านนอก (Outer Thighs หรือ Saddlebags)
  • เป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมด้านนอก ที่ทำให้ขาดูใหญ่ หรือป่องออกด้านข้าง ทำให้ดูไม่สมส่วน
  • การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่ทำให้ขาดูใหญ่หรือหนา ลดความโค้งนูนของต้นขาด้านนอก ทำให้ขาดูสมส่วนกับสะโพกมากยิ่งขึ้น
  1. ด้านหน้าต้นขา (Anterior Thighs)
  • เป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมด้านหน้า ส่งผลต่อรูปร่าง ทำให้รูปร่างดูไม่สมส่วน หรือดูอ้วนตัน ไม่โปร่ง
  • การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro จะช่วยให้ขาดูเพรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น
  1. ด้านหลังต้นขา (Posterior Thighs)
  • ไขมันสะสมหลังต้นขาทำให้รูปร่างดูอ้วนมากกว่าบริเวณอื่นๆ และยังทำให้มีผิวเลือกส้ม และเซลลูไลท์อีกด้วย
  • การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro จะช่วยลดไขมันสะสมด้านหลังต้นขา ทำให้ขาดูเรียวและกระชับ ลดอาการผิวเปลือกส้มและเซลลูไลท์ในบริเวณนี้
  1. เหนือเข่า (Knee Fat หรือ Lower Thighs)
  • ไขมันบริเวณนี้ทำให้ต้นขาดูหนา ตัน และไม่สมส่วน
  • การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro จะช่วยให้ขาดูเรียวยาวและสมส่วนมากขึ้น

ขั้นตอนดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ที่ Rassapoom Clinic

  1. เข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนการทำหัตถการคุณจะได้พบกับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ Rassapoom Clinic เพื่อ ปรึกษาและประเมินปัญหาของไขมันสะสม รวมถึงการกระชับผิว ที่คุณต้องการ แพทย์จะทำการประเมินไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา พร้อมทั้งออกแบบการรักษา
  2. แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุด Tumescent เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา
  3. แพทย์จะทำการเปิดแผลด้วยเข็มขนาดเล็ก หลังจากยาชาออกฤทธิ์ ดังนั้นหลังทำจึงไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เนื่องจากแผลจะมีขนาดที่เล็กมาก
  4. หลังจากนั้นแพทย์ทำการสลายเซลล์ไขมัน พร้อมดูดไขมันและยกกระชับผิวหนัง โดยการสอดหัว Cannula เข้าไปที่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษาใช้เวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาและพื้นที่ของไขมันส่วนเกินและความยากง่ายของผิวหนังในแต่ละเคส

ดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro กับการดูดไขมันแบบธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร?

Procedure
BodyTite Pro
Vaser Liposuction
Liposuction

ข้อดีของการดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTitePro

ข้อดีการดูดไขมัน
  • ช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา และกระชับผิวในขณะเดียวกัน
  • ลดเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้มได้
  • แผลเล็กกว่า พักฟื้นเร็ว
  • สามารถดูดไขมันส่วนเกินได้มากกว่าการดูดไขมันแบบทั่วไป
  • ทำครั้งเดียวจบ สัดส่วนลดลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • มีความปลอดภัยสูง ได้รับมาตราฐานการรองรับจาก US FDA
  • ใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นาน เพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและถาวร ไขมันโดนกำจัดออกไปแล้ว ต้นขาที่ได้จะดูเรียบเนียน และเฟิร์มกระชับ

ข้อเสียของการดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเยอะจนเกินไป 
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยเยอะเกินไป
  • ดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคหัวใจ เบาหวานรุนแรง หรือปัญหาการแข็งตัวของเลือด

ใครเหมาะกับการดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน ไขมันสะสมบริเวณต้นขา
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณต้นขา และกำจัดออกยาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน และผิวหนังหย่อนคล้อยในระดับหนึ่ง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันบริเวณต้นขา โดยไม่ต้องการผ่าตัด และพักฟื้น
  • เหมาะสำหรับผู้ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
  • เหมาะสำรับผู้ที่ต้องการลดเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้ม

นอกจากดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro สามารถทำการรักษาบริเวณใดได้บ้าง?

นอกจากดูดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาได้แล้วนั้น ยังสามารถทำการดูดไขมันบริเวณอื่นๆในร่างกายได้แก่:

  • ดูดไขมันต้นแขน
  • ดูดไขมันหน้าท้อง
  • ดูดไขมันสะโพก
  • ดูดไขมันนมน้อย
  • ดูดไขมันเหนียง ใต้คาง
  • ดูดไขมันแก้ม
  • ดูดไขมันเอว
  • ดูดไขมันหัวเข่า
  • ดูดไขมันปีกนางฟ้า
  • ดูดไขมันน่อง

ก่อนทำการรักษาดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง

ก่อนทำการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม  BodyTite Pro ที่ Rassapoom Clinic ควรเตรียมตัวดังต่อไปนี้: 

  1. หยุดการใช้ ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ยาต้านการอักเสบ, หรือยาที่มีส่วนผสมของกรดอะซิติลซาลิไซลิก (NSAIDs) ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการทำการดูดไขมันต้นขา
  2. งดวิตามิน และอาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา, วิตามิน C,B,E ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนการทำการดูดไขมันต้นขา
  3. กรณีมีประจำเดือน หรือมีอาหารเจ็บป่วย แนะนำไม่ควรทำการรักษาดูดไขมันต้นขาในขณะนั้น
  4. แจ้งโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยาทั้งหมด ให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษาดูดไขมันต้นขา
  5. งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนทำการรักษา  2 สัปดาห์ ก่อนการทำการดูดไขมันต้นขา
  6. พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับการรักษาดูดไขมันต้นขา งดดื่มชา กาแฟ ก่อนเข้ารับการรักษา

หลังทำการรักษาดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง

หลังทำการดูดไขมันต้นขา ด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ที่ Rassapoom Clinic มีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. ทำแผลวันละ 1 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  2. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสกับน้ำโดยตรง  โดยสามารถทำการอาบน้ำได้หลังจากดูดไขมันต้นขา 1 วัน
    โดยแปะพลาสเตอร์บริเวณแผลก่อนอาบน้ำทุกครั้ง
  3. แนะนำใส่ชุดกระชับ หรือ Body garment วันละ 12 ชั่วโมง ระยะเวลา 1 เดือนหลังทำการดูดไขมันต้นขา
  4. งดกิจกรรมที่ใช้แรง หรือออกกำลังกายหนัก ในช่วง 2 อาทิตย์หลังทำการรักษาดูดไขมันต้นขา
  5. งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ หลังทำการรักษาดูดไขมันต้นขา
  6. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

Q&A เกี่ยวกับการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro

1. ดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro คืออะไร?

  • BodyTite Pro คือเทคโนโลยีการดูดไขมันที่ใช้ คลื่นความถี่วิทยุ (Radio-Frequency Assisted Liposuction – RFAL) ในการสลายไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการดูดไขมันแบบทั่วไป ทั้งในเรื่องของการสลายไขมัน และการกระชับผิว หลังการรักษาเซลล์ไขมันจะโดนกำจัด และผิวจะไม่หย่อนคล้อย มีความเรียบเนียนขึ้นทันที

2. การดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ปลอดภัยไหม?

  • การดูดสลายไขมันด้วยโปรแกรม  BodyTite Pro ถือเป็นการรักษาที่ ปลอดภัย เมื่อทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเทคโนโลยี RF ช่วยลดการสูญเสียเลือด และช่วยให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้น

  1. ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro เป็นอย่างไร?

  • ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ BodyTite Pro จะเห็นความแตกต่างใน การลดไขมันส่วนเกิน และ การกระชับผิว ทันทีหลังการทำ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นอีกใน 2-3เดือน เมื่อผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น ขึ้นอยู่กับลักษณะร่างกายของแต่ละบุคคล

4. หลังการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ฟื้นตัวนานไหม?

  • การพักฟื้นตัวหลังจากการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ค่อนข้าง รวดเร็วโดยส่วนใหญ่จะมีการบวมและอาจมีอาการ
    ช้ำเล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพียงแค่งดออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

5. ต้องใส่ชุดกระชับหลังการดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ไหม?

  • แนะนำว่าให้มีการใส่ชุดกระชับ  หลังจากการทำการดูดไขมันด้วยโปรแกรม BodyTite Pro เพื่อช่วยให้ผิวกระชับและลดอาการบวมได้ดี ชุดกระชับจะช่วยให้น้ำเหลืองที่สะสมในร่างกายระบายออก และช่วยกระชับรูปทรงให้เข้าที่เร็วยิ่งขึ้นด้วย

6. การดูดไขมันหน้าต้นขาด้วยโปรแกรม  BodyTite Pro เจ็บไหม?

  • ในระหว่างการทำการรักษา ไม่มีอาการเจ็บ เนื่องจากมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ ที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บ ปกติแล้วผู้ที่ทำการรักษาจะรู้สึกอุ่นๆ บริวณที่ดูดสลายไขมันเท่านั้นเอง

7. การดูดไขมันหน้าต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro เซลล์ไขมันจะกลับมาอีกไหม?

  • เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาอีก แต่ถ้าน้ำหนักขึ้นมาก ไขมันอาจไปสะสมที่บริเวณอื่นแทน ดังนั้นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายยังคงสำคัญ

     เคยคิดไหมว่าการดูดไขมันต้นขาสามารถทำให้ไขมันลดลง และผิวกระชับขึ้นได้ในครั้งเดียว ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์รูปร่างเพรียวกระชับ ดูดไขมันต้นขาด้วยโปรแกรม BodyTite Pro ที่ Rassapoom Clinic อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับ
รูปร่างของคุณอย่างตรงจุด เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ  นอกจากนี้เรายังมี ทีม Customer Service ที่เป็น Beauty Butlerคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความงามและการดูแลตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยคอนเซปต์ “BE THE BEST VERSION OF BEAUTY DESIGN” เราพร้อมช่วยคุณออกแบบความงามในแบบที่เข้าใจคุณที่สุด พร้อมมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกๆ การรักษา!

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว