โปรแกรม  Coolsculpting

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น มาตรฐานระดับโลก ด้วยโปรแกรม CoolSculpting

Freeze Your Fat, Reveal Your Shape เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น โปรแกรม CoolSculpting

     เชื่อว่าปัญหา ไขมันส่วนเกิน เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะการรับประทานอาหารตามใจปากมักส่งผลให้เกิดไขมันสะสม แต่การลดไขมันด้วยการควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยาก ขณะที่การออกกำลังกายก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ

     ปัจจุบันทางการแพทย์มีหลายวิธีช่วยแก้ไขปัญหาไขมันสะสม เช่น การดูดไขมัน หรือการทำทรีทเมนท์ลดไขมัน ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับความต้องการและปัญหาไขมันของแต่ละคนและวันนี้ Rassapoom Clinic ขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือก นั่นคือ โปรแกรม  CoolSculpting เทคนิคสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดหรือฉีดสลายไขมัน แต่ต้องการ ลดไขมันเฉพาะจุดแบบสบาย ๆ ไม่เจ็บ ไม่มีแผล และยังเห็นผลลัพธ์ชัดเจน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการรูปร่างกระชับและสัดส่วนสวยงาม

โปรแกรม CoolSculpting คืออะไร

     CoolSculpting คือเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) โดยไม่ต้องผ่าตัดดูดไขมัน ไม่ต้องพักฟื้น คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ระดับโลก โดยเครื่อง CoolSculpting ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันเฉพาะจุด

     หลักการทำงานของเครื่อง CoolSculpting คือ การส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อทำให้ เซลล์ไขมันแข็งตัวและตายลง จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ขับเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายออกไปตามกระบวนการธรรมชาติ ทำให้ชั้นไขมันบางลง รูปร่างจึงกระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น

หลักการทำงานของ โปรแกรม CoolSculpting

     เครื่อง CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น โดยวิธีทำคือการใช้ หัวดูดผิว (Applicator) ดึงชั้นไขมันส่วนเกินเข้ามาในหัวของเครื่อง คล้ายกับการหยิกไขมันบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา จากนั้นหัวดูดจะปล่อย ความเย็นระดับ -11°C เพื่อแช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมาเป็นเวลา ประมาณ 35 นาที ความเย็นนี้จะทำให้ เซลล์ไขมันแข็งตัวและตายลง แต่ไม่ทำร้ายผิวหนังหรือเนื้อเยื่อรอบข้าง หลังการทำร่างกายจะค่อยๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไปตามกระบวนการธรรมชาติ ชั้นไขมันที่เหลือจะเรียงตัวใหม่ ทำให้สัดส่วนบางลงและรูปร่างกระชับมากขึ้น การทำ CoolSculpting จึงเป็นวิธี ลดไขมันเฉพาะจุดที่เห็นผลจริง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้นนาน

โปรแกรม CoolSculpting มีกี่แบบ

โปรแกรม CoolSculpting มีหัวดูดหลายขนาดและรูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับ พื้นที่และปริมาณไขมัน ของแต่ละบุคคล โดยหัวแต่ละแบบมีคุณสมบัติดังนี้

  • CoolAdvantage
    หัวขนาดกลาง กว้าง 6 ซม. ยาว 16 ซม. พื้นที่ประมาณ 18 ตารางนิ้ว เป็นหัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ใช้กับคนที่มีไขมันปานกลาง สามารถสลายไขมันได้ 7 จุดหลัก ได้แก่ ท้อง, เอว, แขน, หน้าอก (ผู้ชาย), ปีกหลัง, ขาด้านใน และใต้ก้น
  • CoolAdvantage Petite
    หัวขนาดเล็กกว่า เหมาะกับคนตัวเล็กหรือมีไขมันบาง ใช้กับ 7 จุดเหมือนหัว CoolAdvantage เช่น ท้อง, เอว, แขน, หน้าอก (ผู้ชาย), ปีกหลัง, ขาด้านใน และใต้ก้น
  • CoolAdvantage Plus
    หัวขนาดใหญ่ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมมาก ใช้สำหรับพื้นที่กว้าง เช่น ท้องและเอว
  • CoolMini
    หัวขนาดเล็ก เหมาะสำหรับไขมันบริเวณเฉพาะจุด เช่น เหนียง, นมน้อย, เนื้อใต้รักแร้ หรือเนื้อย้วยเหนือเข่าในบางกรณี

CoolSmooth Pro
หัวขนาดกว้าง 14 ซม. ยาว 18 ซม. พื้นที่ประมาณ 38 ตารางนิ้ว ใช้กับบริเวณขาด้านนอก, หน้าท้อง หรือบริเวณใต้สะโพกลงมา และบางคลินิกใช้สำหรับทำ Six-pack

ทำไมต้องกำจัดไขมันด้วยความเย็น

งานวิจัยพบว่า เซลล์ไขมันตอบสนองต่อความเย็นได้ไวกว่าเซลล์ชนิดอื่น คล้ายกับเวลาที่เราแช่ไขมันในตู้เย็น มันจะแข็งตัวและแยกชั้นได้อย่างชัดเจน เมื่อเซลล์ไขมันถูกทำให้เย็นจัดจนถึงระดับติดลบ เซลล์เหล่านี้จะตายลงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ ทำให้การใช้ความเย็นเป็นวิธีที่ปลอดภัยและตรงจุดสำหรับการกำจัดไขมัน

ต่างจากการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ที่ช่วยเพียง ลดขนาดเซลล์ไขมัน แต่ไม่ได้กำจัดเซลล์ออกไป หากกลับไปใช้ชีวิตปกติ เซลล์เหล่านั้นก็สามารถขยายตัวกลับมาได้ แต่การใช้ความเย็นจะช่วย กำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายอย่างถาวร ทำให้รูปร่างกระชับและสัดส่วนดูสมส่วนมากขึ้น

ข้อดีของโปรแกรม CoolSculpting

  1. ลดไขมันเฉพาะจุดได้ตรงจุด
    – สามารถกำจัดไขมันดื้อด้านบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว หรือเหนียง ที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วยังลดยาก

  2. กำจัดไขมันอย่างถาวร
    – ความเย็นจะทำให้ เซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกาย จึงช่วยให้สัดส่วนกระชับอย่างยั่งยืน

  3. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว
    – ใช้หัวดูดและความเย็นโดยไม่ต้องฉีดยา ไม่มีแผล ไม่มีรอยช้ำ

  4. ไม่ต้องพักฟื้น
    – หลังทำสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที

  5. ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
    – ชั้นไขมันบางลง เซลล์ไขมันที่เหลือเรียงตัวใหม่ ทำให้รูปร่างดูสมส่วนและเรียบเนียน

  6. ปลอดภัย มีงานวิจัยรองรับ
    – ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และมีงานวิจัยทางคลินิกยืนยันประสิทธิภาพ

ข้อจำกัดของโปรแกรม CoolSculpting

  1. เหมาะกับไขมันปานกลางถึงดื้อด้าน
    – สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมมากมาก หรือรูปร่างอ้วนมาก ๆ การทำ CoolSculpting อาจเห็นผลช้าหรือจำเป็นต้องทำหลายครั้ง

  2. ผลลัพธ์ไม่เห็นทันที
    – หลังทำต้องใช้เวลา ประมาณ 1–3 เดือน ร่างกายจึงค่อย ๆ ขับไขมันออกมาและเห็นการเปลี่ยนแปลง

  3. อาจเกิดรอยแดง ช้ำ หรือชาเล็กน้อย
    – หลังทำในบางรายอาจมี ผิวแดง ชา หรือบวมเล็กน้อย แต่จะหายเองภายในไม่กี่วันถึงสองสัปดาห์

  4. ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยรวม
    – CoolSculpting เป็นการลด ไขมันเฉพาะจุด ไม่ได้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักทั้งหมด

โปรแกรม CoolSculpting เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีไขมันเฉพาะจุดดื้อด้าน
    เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว หรือเหนียง ที่แม้ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วยังลดยาก

  2. ผู้ที่ต้องการหุ่นกระชับโดยไม่ผ่าตัด
    ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดแบบ ไม่เจ็บ ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้นนาน

  3. คนที่มีน้ำหนักใกล้ปกติแต่มีไขมันสะสมบางจุด
    เช่น ผู้ที่อยากปรับสัดส่วนให้สมส่วนมากขึ้น หรือกำจัดไขมันดื้อด้านบริเวณแขน ขา เอว

  4. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
    ชั้นไขมันบางลง เซลล์ไขมันที่เหลือเรียงตัวใหม่ ทำให้รูปร่างเรียบเนียนและสัดส่วนสมดุล

โปรแกรม CoolSculpting รักษาบริเวณใดได้บ้าง

  • บริเวณหน้าท้อง (Abdomen) – ลดไขมันบริเวณพุงส่วนบนและส่วนล่าง

  • บริเวณเอว (Flanks / Love Handles) – ลดไขมันด้านข้างลำตัว

  • บริเวณต้นแขน (Arms) – กำจัดไขมันส่วนบนของแขน

  • บริเวณต้นขา (Thighs) – ทั้งต้นขาด้านในและด้านนอก

  • บริเวณใต้ก้น (Banana Roll) – ลดไขมันใต้สะโพก

  • บริเวณหน้าอกผู้ชาย (Male Chest) – ลดไขมันในกรณีชายที่มีหน้าอกเล็กหรือไขมันสะสม

  • บริเวณเหนียง / คางสองชั้น (Double Chin) – ลดไขมันใต้คาง

  • บริเวณปีกหลัง / หลังส่วนบน (Back Fat) – ลดไขมันบริเวณด้านหลัง

ผลลัพธ์หลังทำการรักษาสลายไขมันด้วยโปรแกรม CoolSculpting

  1. ลดไขมันเฉพาะจุดอย่างเห็นได้ชัด
    เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะค่อย ๆ ถูกขับออกตามธรรมชาติ ทำให้สัดส่วนบางลง และบริเวณที่ทำดูเรียบเนียน

  2. รูปร่างกระชับ สมส่วนมากขึ้น
    ชั้นไขมันที่เหลือจะเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนและสัดส่วนดูสมดุล
  3. ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติ
    สามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ ประมาณ 1–3 เดือน หลังทำ และผลลัพธ์เต็มที่จะชัดเจนภายใน 3 เดือน
  4. ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น
    หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่มีรอยแผลหรือแผลเป็น
  5. สามารถทำซ้ำได้ตามต้องการ
    หากต้องการปรับสัดส่วนเพิ่มเติม สามารถทำซ้ำในบริเวณเดิมหรือจุดอื่น ๆ

การเตรียมตัวก่อนทำการรักษาสลายไขมันด้วยโปรแกรม CoolSculpting

  1. ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน
    คนไข้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น แต่งหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และดื่มน้ำ
  2. เหมือนทำทรีทเมนท์ทั่วไป
    การทำ CoolSculpting ไม่ใช่การผ่าตัดหรือการฉีดสลายไขมัน
  3. เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินก่อน
    แนะนำให้เข้ามาที่คลินิกเพื่อตรวจประเมินว่าสามารถทำ CoolSculpting ได้หรือไม่
  4. นัดคิวและเริ่มทำได้เลย
    หากประเมินแล้วสามารถทำได้ แพทย์จะนัดคิว และสามารถเริ่มการรักษาได้ทันที

การปฏิบัติตัวหลังทำการรักษาสลายไขมันด้วยโปรแกรม CoolSculpting

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    เพื่อช่วยรักษาสัดส่วนและกระชับรูปร่างให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
  2. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
    เลือกอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำตาล ไขมันทรานส์ และอาหารแปรรูป
  3. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ไขมันสะสม
    ลดอาหารที่ทำให้เซลล์ไขมันขยายตัว เพื่อป้องกันไขมันกลับมาสะสมในบริเวณเดิม

 

ทำไมต้อง โปรแกรม CoolSculpting ที่ Rassapoom Clinic

  1. ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ
    มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน CoolSculpting คอยประเมินและเลือกหัวapplicatorให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

  2. เครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัย
    ใช้เครื่อง CoolSculpting รุ่นล่าสุด หัวapplicatorหลายขนาด ครอบคลุมทุกบริเวณของร่างกาย
  3. การประเมินและปรับแผนเฉพาะบุคคล
    ทุกเคสจะได้รับการประเมินรูปร่างและไขมันสะสมก่อนทำ เพื่อให้ผลลัพธ์เรียบเนียนและสัดส่วนสมดุล
  4. ปลอดภัยและมีมาตรฐาน
    การรักษาเป็นไปตามมาตรฐานสากล ใช้วิธีไม่ผ่าตัด ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
  5. ติดตามผลหลังทำ
    คลินิกติดตามผลลัพธ์และให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

Q&A โปรแกรม CoolSculpting

  1. โปรแกรม CoolSculpting ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
    ปกติจะเริ่มเห็นผลชัดเจน หลังทำ 1–3 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและบริเวณที่ทำ บางรายอาจต้องทำซ้ำเพื่อปรับสัดส่วนเพิ่มเติม

  2. โปรแกรม CoolSculptingสามารถทำบ่อยได้ไหม?
    สามารถทำซ้ำได้ตามต้องการ แต่ละจุดควรเว้นระยะเวลาประมาณ 1–3 เดือน เพื่อให้ร่างกายกำจัดไขมันเก่าก่อน

  3. โปรแกรม CoolSculpting: เจ็บไหมขณะทำ?
    คนไข้มักจะรู้สึก เย็นจัดและแน่นบริเวณหัวดูด แต่ไม่ใช่ความเจ็บปวด อาจมีชาเล็กน้อยระหว่างทำ

  4. โปรแกรม CoolSculpting จะทำให้ผิวหนังตายไหม? มีการฟรีทผิวด้วยความเย็นหรือไม่?
    ไม่ทำให้ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออื่นตาย เพราะ CoolSculpting ออกแบบให้ ความเย็นลงไปเฉพาะชั้นไขมัน และมีระบบควบคุมอุณหภูมิอย่างปลอดภัย

  5. โปรแกรม CoolSculpting ไขมันจะถูกกำจัดถาวรไหม?
    เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย อย่างถาวร แต่หากรับประทานอาหารมากเกินไปหรือไม่ออกกำลังกาย เซลล์ไขมันที่เหลือสามารถขยายตัวได้

  6. โปรแกรม CoolSculptingค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
    ราคาเริ่มต้น 7,900 บาท ขึ้นอยู่กับบริเวณและจำนวนหัวapplicator

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธี ลดไขมันเฉพาะจุดแบบไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้นนาน โปรแกรม CoolSculpting ที่ Rassapoom Clinic คือคำตอบที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา หรือเหนียง คุณก็สามารถปรับสัดส่วนให้กระชับและเรียบเนียนได้อย่างปลอดภัย สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่คนไข้คาดหวังและพึงพอใจในการเข้ารับบริการ โดยนอกจากนี้ Rassapoom Clinic ยังมีทีม Customer Service ที่เป็น Beauty Butler เสมือนผู้ช่วยให้คำปรึกษาด้านความงามแก่ท่านตลอด 24h. ด้วยคอนเซปต์ “BE THE BEST VERSION OF BEAUTY DESIGN” ออกแบบความงามด้วยความเข้าใจในความเป็นคุณ

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว