นวัตกรรมใหม่ในการปรับผิวหน้าให้ใสไร้ฝ้า กระ จุดด่างดำด้วย Super Skin Laser
ในยุคที่ผู้คนพากันแข่งกันที่จะดูดีกันให้มากขึ้นในทุกวัน ก็มีนวัตกรรมต่างๆ ที่ถูกพัฒนา ออกมาเพื่อที่จะรองรับความต้องการของผู้คนกันมากขึ้น อย่างที่ทราบกันดีว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งงานผิว ใครๆ ก็ต้องการมีผิวที่สวย ใส ดูดี ไร้ร่องรอยด่างดำต่างๆ
ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะออกมารณรงค์ว่าการมีรอยสิว ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำเป็นสิ่งที่เราทุกคนพึงมี เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า ค่านิยมเหล่านั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เลย เพียงแต่ว่าเราทุกคนต้องเคารพในสิทธิ์และความชอบรวมทั้งสนับสนุนซึ่งกันและเสียมากกว่า
ซึ่งในปัจจุบันนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ ก็ถูกผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการมีความสวยใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำในแบบที่ตัวเองต้องการ คือความสวยที่มีหน้าใสไร้ตำหนิไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยเทคโนโลยีที่ผลิตและออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวหน้าสวยใสฝ้า กระ และจุดด่างดำนั้นก็มีมากมายเต็มท้องตลาด หากแต่ไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้ครบทุกด้าน และให้ผลลัพธ์ที่อาจจะไม่ดีได้เท่าที่ควร ไม่เหมาะสมกับราคาและความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคได้เสียไป
แต่วันนี้ Rassapoom Clinic ได้มีหนึ่งโปรแกรมที่เรียกได้ว่าดี คุ้มค่าสำหรับเงินทุกบาทที่ผู้บริโภคได้เสียไปเนื่องจากรักษาได้ทั้ง ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ช่วยทำให้หน้าขาวใสได้อย่างที่ต้องการอย่างโปรแกรม Super Skin Laser มาให้รู้จักกันว่าดีงามยังไงจัดการฝ้า กระ และจุดด่างดำยังไง และทำให้หน้าใสได้ยังไง
โปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำเป็นโปรแกรมพิเศษที่รวบรวมที่สุดของนวัตกรรม ในการดูแลผิวหน้าให้ใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำรวมทั้งการทำให้หน้าใสกิ๊งไว้ในโปรแกรมเดียวกันโดยตัวเครื่องของโปรแกรม Super Skin Laser นั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องแบบพิเศษ ที่ถูกออกแบบและพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ดีขึ้นไปอีกขั้น ในการจัดการฝ้า กระ และจุดด่างดำและปรับให้หน้าใส ด้วยเลเซอร์ Pulse dye Laser เหมือนกันกับเครื่อง V-Beam
โปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำจะทำการปล่อยพลังงานจากเครื่องที่มีความถี่สูงถึง 12,000 ต่อวินาที เพียงในครั้งเดียว ซึ่งนับว่าโปรแกรม Super Skin Laser เป็นโปรแกรมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำที่มีความถี่สูงมาก ไม่เพียงแค่นั้นตัวโปรแกรม Super Skin Laser ยังเป็นโปรแกรมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำที่ปลอดภัยสูงและมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงทั้งยังลดผลข้างเคียงในการทำเลเซอร์อีกด้วย ที่สำคัญโปรแกรม Super Skin Laser ยังเป็นเครื่องที่ดูแลรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำและปัญหาผิวอื่นๆ ทำให้หน้าใสได้ครอบคลุมทั้งหมดทั้งผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก
โปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำ เป็นที่ใช้คลื่นในการรักษาโปรแกรมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำทำให้หน้าใส ที่ใช้ตัวคลื่นถึง 2 คลื่นและ 2 ความยาวคือ 589 nm (นาโนเมตร) และคลื่นความยาว 1319 nm ทั้งนี้การใช้ถึง 2 คลื่นและสองความยาวมีจุดเด่นที่เป็นวัตถุประสงค์ของการสร้างเครื่องคือการกระตุ้นการสร้าง Fibroblast ที่เป็นตัวเร่งการกระตุ้น ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินที่อยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่ง Fibroblast เป็นส่วนหนึ่งของชั้นผิวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ สำหรับโครงสร้างของผิวหนัง เนื่องจากเมื่อ Fibroblast ทำงานได้ไม่ดี ก็จะไม่มีสิ่งที่เข้าไปเร้าหรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้มีความยืดหยุ่น กักเก็บน้ำในผิวและพยุงโครงสร้างผิวนั่นเอง
Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
โปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำ จึงนับเป็นโปรแกรมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำทำให้หน้าใสที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ที่ดีที่สุดนั่นเอง ทั้งนี้คลื่นทั้ง 2 ความยาว ทั้งคลื่นความยาว 589 nm และ 1319 nm ยังเป็นคลื่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ทำให้หน้าใสโดยเฉพาะ ทั้งยังช่วยในการรักษาสิว โรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างเม็ดสี สิวอักเสบหรือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นต่างๆ ที่เกิดจากสิวก็สามารถรักษาได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง และมีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ใช่เพียงแค่ฝ้า กระ และจุดด่างดำ เทานั้น
เนื่องจากโปรแกรม Super Skin Laser ถูกออกแบบมาเพื่อให้ช่วยลดการอักเสบและมีการชี้จุดความแม่นยำอย่างชัดเจนลงไปที่ต่อมไขมัน ที่เราทราบกันดีว่าต่อมไขมันนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดสิวจึงทำให้ช่วยรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญยังเห็นผลได้อย่างชัดเจนถึงแม้จะทำไม่ต่อเนื่อง
จึงทำให้ โปรแกรม Super Skin Laser นั้นมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะเป็นโปรแกรมดูแลผิวหน้าที่สามารถรักษาได้หลากหลายปัญหาไม่ใช่เพียงแค่รักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ เพียงเท่านั้นรวมทั้งยังเป็นโปรแกรมที่สามารถทำให้หน้าใสและแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้ในทุกสภาพผิว
Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2 ความยาวคลื่นดังกล่าวของโปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำแบ่งออกได้ดังนี้
1.แสงเลเซอร์สีเขียวมีความยาวคลื่น 589 nm ใช้ในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำอย่างไร ?
เป็นความยาวคลื่นที่ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำวิธีการคือการลดการสร้างเม็ดสีของผิว ทำให้ผิวมีความใสเนียน นอกจากนี้แสงสีเหลืองยังช่วยในการดูแลผิวที่มีฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำจากแสงแดดรอยแดง รอยดำ และยังลดการอักเสบของสิวอักเสบได้เป็นอย่างดีโปรแกรม Super Skin Laser จึงเป็นโปรแกรมที่ช่วยในการทำให้ใบหน้าทั้งสวยใสไร้ฝ้า กระ จุดด่างดำ และสิวได้เป็นอย่างดี
Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2.แสงเลเซอร์สีเหลืองมีความยาวคลื่น 1319 nm ใช้ในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ อย่างไร ?
แสงสีเหลืองในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้โดยการช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ด้วยการกระตุ้น Fibroblast บริเวณใต้ชั้นผิวทำให้ผิวมีความเรียบเนียนยืดหยุ่นเป็นอย่างดี ช่วยในการลดริ้วรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยในการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงกระจ่างใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำทำให้สวยได้สมใจ
ทำความรู้จักสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำตัวการของการทำให้ผิวไม่สวยกันก่อนว่าฝ้า กระและจุดด่างดำ
1.สิว (acne)
เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีไม่มากก็น้อย สิวเกิดขึ้นจากปัจจัยของร่างกายเป็นหลักและทำการรักษาได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตประจำวันนอกจากนี้ การที่สิวจะเกิดขึ้นนานหรือไม่นานก็เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่นกัน
ซึ่งนอกจากปัจจัยภายในปัจจัยภายนอกบางส่วนก็มีผลต่อการเกิดสิวได้เช่นกัน โดยปัจจัยภายนอกดังกล่าว คือการรับประทานยาบางชนิด หรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือไม่เหมาะกับผิวของผู้ใช้เป็นต้น รวมทั้งการกระตุ้นผิวโดยไม่รู้ตัวเช่นการแคะ แกะ เกาะ อันเป็นสาเหตุของการทำให้ผิวเกิดการอักเสบ และสิ่งสกปรกรอบด้าน มลภาวะรอบตัวเป็นปัจจัยภายนอก ที่ทำให้เกิดสิวและหน้าไม่ใสได้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวได้ถูกจำแนกได้ดังนี้
– แบคทีเรีย แบคทีเรียมีด้วยกันหลากหลายประเภท แต่ที่พูดถึงนี้คือแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวคือ Cutibacterium acnes (C.acnes) โดยปกติแล้ว แบคทีเรียชนิดนี้ จะอาศัยและเจริญเติบโตในและรอบๆ รูขุมขนของคนเรานั่นเอง โดยการเป็นสิวนั้นเกิดจากการเติบโต ของแบคทีเรียชนิดนี้ที่เติบโตขึ้นจากการเก็บสะสมของเซลล์ผิวหนังและปริมาณของไขมันที่อุดตันรูขุมขนในปริมาณที่มากขึ้น เปรียบเสมือนแบคทีเรียมีอาหารการกินที่ดีขึ้น จึงทำให้การเติบโตง่ายขึ้นไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยในการแพร่ขยายของแบคทีเรียชนิดนี้ให้มีจำนวนประชากร ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
– อุดตันรูขุมขน สิวเกิดจากการเกิดการอุดตันของรูขุมขน สาเหตุของการอุดตันก็คือเซลล์หนังกำพร้าที่อยู่ชั้นนอกและด้านนอกที่สุดของเซลล์ ได้เกิดการหนาตัวมากกว่าปกติ ประกอบกับกระบวนการผลัดเซลล์ผิวมีการผิดปกติเกิดขึ้น จึงส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ไปอุดตันอยู่ที่รูขุมขนในปริมาณที่มาก และกลายสภาพเป็นสิวอุดตันในที่สุดโดยสิวอุดตันในลักษณะนี้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มีเพียงขนาดเล็กๆ ถี่ๆ เท่านั้น ในทางกลับกัน หากไม่ได้รับการรักษา หรือถูกกดออก ก็จะกลายเป็นสิวอักเสบภายหลังได้
– รูขุมขนอักเสบ สิวในบางชนิดเป็นสิวที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน โดยสิวประเภทนี้จะเกิดจากการสะสมของปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ปัจจัยต่างๆ ทั้งเซลล์ผิวหนัง ไขมัน รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย ชนิดที่ทำให้เกิดสิว สะสมรวมกันอยู่ที่รูขุมขนและเมื่อสะสมรวมกันในปริมาณที่มาก จะทำให้เกิดสิวอุดตันไม่เพียงเท่านั้นเมื่อสะสมในปริมาณที่มากขึ้นจนเกินไป จะทำให้เชื้อดังกล่าวกระจายตัวออก และลามเข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่อยู่ข้างเคียง กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุดเมื่อเกิดอาการอักเสบขึ้น
– ต่อมไขมัน สิวบางประเภทก็เกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน ต่อมไขมันที่ปกติจะทำหน้าที่ในการผลิตไขมัน เพื่อนำไปหล่อเลี้ยงผิวหนังบางส่วน โดยเป็นที่รู้กันว่าปกติแล้วผิวหนังของคนเรา จะมีไขมันเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย แต่เมื่อต่อมไขมันทำการผลิตไขมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไปประกอบการเก็บสะสม และทับถมกันในปริมาณที่มากของไขมัน ก็จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนที่เพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นสิวได้ในที่สุด
2.ฝ้า (Melasma)
ฝ้าเป็นลักษณะความผิดปกติของเม็ดสีผิว (Melanin pigment) โดยเป็นภาวะของผิวที่เกิดการสร้างเซลล์เม็ดสีที่ผลิตขึ้นมาในจำนวนที่มากจนเกินไป จนทำให้เมลานินที่อยู่ใต้ผิว หรือที่เรียกกันว่าเม็ดสีมีจำนวนมากขึ้น และเกิดจำนวนปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ผิวของเรามีสีที่เข้มขึ้นเป็นจุดๆ ไล่ไปตั้งแต่น้ำตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลเข้ม
โดยฝ้ามักจะขึ้นบริเวณใบหน้าที่โดนแดดมากๆ เช่น จมูก แก้ม หรือหน้าผาก แต่ไม่ได้แปลว่าบริเวณอื่นฝ้าจะขึ้นไม่ได้ บริเวณอื่นฝ้าก็สามารถขึ้นได้เช่นกัน ฝ้าเกิดได้กับทุกเพศไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สามารถมีฝ้าได้ทั้งสิ้นและมักพบในผู้ที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้สามารถพบได้ในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ได้เช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้ามีหลายปัจจัย เช่น
– แสงแดดหรือการโดนแดดมากเกินไปของผิวหนัง จึงทำให้เมลานินหรือเม็ดสีผิวถูกผลิตออกมาในจำนวนที่มากจนเกิดเป็นฝ้า
– การตั้งครรภ์ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
– การรับประทานยาคุมกำเนิด ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
– เครื่องสำอาง หรือการแพ้เครื่องสำอางที่ส่งผลต่อการเข้าไปกระตุ้นการสร้างของเม็ดสีเมลานินจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นของสีผิว
– พันธุกรรมก็มีส่วนในการทำให้เป็นฝ้าได้เช่นกัน
ประเภทของฝ้าชนิดต่างๆ
– ฝ้าแดด เป็นฝ้าที่เกิดจากการโดน หรือสัมผัสกับแสงแดด เมื่อผิวหนังของคนเราสัมผัสกับแสงแดดแล้วจะโดนทั้งรังสี UVA และ UVB (ยูวีเอ และ ยูวีบี) ซึ่งเป็นรังสีที่มีปริมาณของอัลตร้าไวโอเลทในปริมาณที่มีคลื่นความยาวค่อนข้างสูง จึ้งทำให้เกิดภาวะการทำลายผิวในความลึกสูง ด้วยเหตุนี้นั่นเอง UVA และ UVB จึงเข้าไปทำการกระตุ้นให้ผิวหนังได้เกิดการผลิตเม็ดสีผิวและเกิดเป็นฝ้าแดด ขึ้นมายิ่งโดนแดดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ฝ้าแดดบนใบหน้ามีสีที่ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น ฝ้าแดดยังสามารถเกิดจากแสงของหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงไฟที่มีความร้อนมาก หลอดไฟ หน้าจอโทรศัพท์ก็สามารถทำให้เกิดฝ้าชนิดนี้ได้เช่นกัน
– ฝ้าลึก (Dermal type) เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังชั้นผิวกำพร้า หรือลึกลงไปอีก และส่งผลให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาจนถึงผิวหนังชั้นหนังแท้ ฝ้าชนิดนี้จะมีสีที่ไม่เข้มไปจนถึงอ่อน เช่นน้ำตาลอ่อน เทา เทาจางๆ หรือม่วง ม่วงอ่อนก็ได้เช่นกัน
โดยจะสังเกตลักษณะของฝ้าคือจะมีความเบลอ เห็นเพียงบางๆ ขอบไม่ชัดเท่าฝ้าแดด เนื่องจากเป็นฝ้าที่เกิดโดยผิวชั้นลึก ส่งผลให้ผิวหนังแท้ได้รับผลกระทบ จึงทำให้เห็นได้ไม่ชัดนั่นเอง แต่ด้วยความที่ฝ้าชนิดนี้ขึ้นในผิวหนังชั้นลึก จึงส่งผลให้การรักษาฝ้าชนิดนี้จะยากนั่นเอง
– ฝ้าตื้น (Epidermal type) ฝ้าลักษณะนี้ จะมีความเข้มจัดอย่างเห็นได้ชัดทั้งตัวฝ้าและของขอบฝ้า มีสีเป็นสีน้ำตาลเข้มเห็นเด่นชัด ด้วยความที่ฝ้าชนิดนี้เกิดขึ้นบนผิวหนังชั้นตื้นไม่ถึงชั้นหนังกำพร้า จึงทำให้เมื่อเป็นแล้วสามารถรักษาได้โดยง่าย แต่ก็เป็นง่ายเช่นกัน
– ฝ้าเลือด (Telangiectatic Melasma) ลักษณะของฝ้าชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นสีแดง เนื่องจากฝ้าชนิดนี้จะเกิดขึ้นจากระบบภายใน อย่างเลือดลมและฮอร์โมนในร่างกายที่มีความผิดปกติไปจากเดิม โดยปกติแล้วฝ้าชนิดนี้จะเกิดจากการกินยาที่เข้าไปกระตุ้น หรือปรับเปลี่ยนฮอร์โมนจึงทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติของเส้นเลือดและเส้นเลือดฝอย นอกจากนี้หากเข้าไปกระตุ้นอาจจะเป็นการโดนความร้อน หรือตากแดดมากๆ ฝ้าชนิดนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดว่ามีความเข้มมากขึ้น มีสีที่แดงมากขึ้นได้
– ฝ้าผสม (Indeterminate type) ฝ้าชนิดนี้เป็นฝ้าที่เกิดจากการเป็นฝ้าหลายๆ ชนิด ไม่ใช่เพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง จึงทำให้เกิดความยากในการรักษาฝ้าชนิดนี้และการดูแล เนื่องจากจะต้องค่อยๆ ทำการรักษาฝ้าทีละชนิดด้วยวิธีที่เหมาะสมและไม่ส่งผลในการกระตุ้นฝ้าชนิดอื่น
3.กระ (Freckles)
กระ เป็นความผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน และการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวเช่นเดียวกันกับฝ้า โดยเมื่อผิวได้สัมผัสกับรังสีอัลตร้าไวโอเลต ซึ่งไมลาโนไซต์ที่อยู่ในร่างกายของคนเราจะเริ่มทำการผลิตการสร้างเมลานินขึ้นมาก เพื่อปกป้องผิวที่อาจได้รับความเสียหายหรือผลเสียจากการโดนรังสีอัลตร้าไวโอเลทนั่นเอง
จึงทำให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดสีขึ้นมากระจุกตัวรวมกันในปริมาณที่มาก ในบางทีอาจมากเกินไปกว่าที่ร่างกายและผิวหนังต้องการ จึงทำให้เกิดสีที่เข้มมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นกระในที่สุด นอกจากนี้ กระยังสามารถเกิดจากปัจจัยภายในร่างกายได้อีกด้วยเช่นพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์เป็นต้น
สามารถจำแนกลักษณะของกระแต่ละชนิดได้ดังนี้
– กระลึก (Lentigines) กระชนิดนี้จะมีลักษณะที่เห็นเป็นจุดขนาดเล็ก หรือหากมีลักษณะเป็นแผ่นก็จะมีเพียงแผ่นบางๆ ที่มีสีอ่อน มีขอบไม่ชัด เช่นสีน้ำตาลอ่อน เทา บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นฝ้าได้ โดยกระชนิดนี้เกิดขึ้นจากการผิดปกติของเซลล์เม็ดสี
หรือเป็นแผ่นสีน้ำตาล เทา ดำ ขอบไม่ชัด มองเผินๆ คล้ายฝ้า มักพบบริเวณ โหนกแก้ม ดั้งจมูก ขมับทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น กระชนิดนี้จะเกิดจากการกระตุ้นของแสงแดด หรือรังสีอัลต้าไวโอเลทและฮอร์โมนในร่างกายซึ่งเมื่อยิ่งมีอายุสูงขึ้นยิ่งทำให้เห็นชัดมากขึ้น
– กระตื้น (Ephelides) กระชนิดนี้จะสามารถมองเห็นได้เป็นจุดสีน้ำตาลที่มีขนาดไม่ใหญ่ โดยจะเห็นเป็นจุดเล็กๆ ที่มีความชัดเจน โดยกระชนิดนี้จะเกิดจากการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ และผิวหนังไวต่อแสงมากกว่าปกติ สาเหตุนี้สามารถเกิดได้จากพันธุ์กรรม จึงทำให้กระชนิดนี้สามารถมีได้ตั้งแต่เด็ก เช่นชาวต่างชาติที่มีผิวขาวมากๆ นั้นเอง เช่นเดียวกันเมื่อมีอายุที่มากขึ้นกระชนิดนี้จะยิ่งมีสีที่เข้มกว่าขึ้นและมีประมาณที่เยอะมากขึ้นได้ด้วย
– กระแดด (Solar Lentigo) กระชนิดนี้จะมีลักษณะที่เห็นเป็น เป็นจุดหรือปื้นที่ไม่นูนเป็นสีน้ำตาลหรือดำ มีความชัดเจนมากสามารถดูออกว่าเป็นกระ โดยมากจะเกิดจากผู้ที่โดนแดดบ่อย คนขาว และผู้สูงอายุ
– กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) กระชนิดนี้จะมีลักษณะปูดนูนออกมา เป็นติ่งเนื้อที่มีขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อนไล่ไปจนเข้ม มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หรือแผ่นหลังจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามอายุ โดยสาเหตุการเกิดของกระชนิดนี้คือการเติบโตมากกว่าปกติของผิวหนังกำพร้า รวมกันกับปัจจัยร่วมเช่นอายุ และแสงแดด
4.จุดด่างดำ (Dark Spot)
จุดด่างดำ เป็นร่องรอยที่เกิดจากความผิดปกติบางอย่างกับผิวหนัง เช่นจุดด่างดำจากการเกิดสิว จุดด่างดำที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของเม็ดสีเมลานินในผิวเป็น หรือจุดด่างดำที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังโดยจุดด่างดำ คือผิวหนังส่วนที่มีสีเข้มกว่าปกติ โดยจุดด่างดำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว และทุกสีผิว โดยจุดด่างดำสามารถป้องกันให้ไม่เกิดได้ด้วยการไม่ไปแคะแกะ เกา หรือกด บริเวณที่เป็นสิว หรือบริเวณที่มีอาการคัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอักเสบจนเปลี่ยนสีนั่นเอง
นอกจากนั้นในบางกรณีจุดด่างดำ อาจเกิดขึ้นได้จากการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง หากสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ จุดด่างดำบางชนิดก็สามารถจางลงได้อย่างรวดเร็วกว่าปกติ
Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
เมื่อทราบถึงสาเหตุของ สิว ฝ้า กระ และจุดด่างทำ ตัวการของการทำให้ผิวไม่สวยใสแล้ว จะเห็นได้ว่าโปรแกรม Super Skin Laser เหมาะกับการรักษา ฝ้า กระ และจุดด่างดำที่เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการเม็ดสีโดยเฉพาะจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเม็ดสีที่เกิดจาก ฝ้า กระ และจุดด่างดำนั่นเอง
ข้อดีของโปรแกรม Super Skin Laser ในการยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
1.โปรแกรม Super Skin Laser สามารถกำหนดจุดที่ต้องการจะทำการรักษาได้ชัดเจน ทั้งสิว ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ
2.โปรแกรม Super Skin Laser สามารถรักษาปัญหาผิวหน้าไม่ใสได้อย่างครอบคลุมทั้งสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
3.โปรแกรม Super Skin Laser ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถรักษาสิวอักเสบได้เป็นอย่างดี ต่างจากเครื่องเลเซอร์หลายๆ เครื่องที่ไม่แนะนำให้ทำตอนมีสิวอักเสบ
4.โปรแกรม Super Skin Laser เป็นโปรแกรมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำไปพร้อมกับการเป็นสิวได้
5.โปรแกรม Super Skin Laser มีผลข้างเคียงในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำที่น้อยที่สุดซึ่งจะมีแค่รอยแดงเท่านั้นโดยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
6.โปรแกรม Super Skin Laser ใช้รักษาฝ้า กระ หรือจุดด่างดำได้เหมาะกับทุกสภาพผิว
7.โปรแกรม Super Skin Laser ใช้รักษาฝ้า กระ หรือจุดด่างดำได้เหมาะกับทุกสีผิว
ภาพก่อนทำ – หลังทำโปรแกรม Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ใครเหมาะกับการทำการรักษาด้วยโปรแกรม Super Skin Laser ในการยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
1.ผู้ที่มีสิวฝ้า กระ และจุดด่างดำ
2.ผู้ที่มีสิวอักเสบ
3.ผู้ที่มีเม็ดสีต่างๆ บนใบหน้านอกเหนืองจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ
4.ผู้ที่ต้องการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ อย่างแม่นยำโดยไม่มีผลกระทบต่อผิวบริเวณอื่น
5.ผู้ที่ต้องการรักษา สิวฝ้า กระ และจุดด่างดำ ไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ต้องรักษาสิวให้หายก่อน
6.ผู้ที่มีผิวหน้าไม่ใสผิวไม่สม่ำเสมอโดยอาจเป็นปัญหารวมทั้งหมดทั้งฝ้า กระ และจุดด่างดำ
7.ผู้ที่ต้องการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ แต่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
ภาพก่อนทำ – หลังทำโปรแกรม Super Skin Laser คืออะไร รักษาฝ้ากระและจุดด่างดำ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ทำไมจะต้องทำโปรแกรม Super Skin Laser ยกระดับหน้าใสไร้ฝ้า กระ และจุดด่างดำที่ Rassapoom Clinic
1.แพทย์ที่ Rassapoom Clinic มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในด้านการดูแลผิวโดยเฉพาะจึงสามารถดูแลฝ้า กระ และจุดด่างดำ ได้เป็นอย่างดี
2.Rassapoom Clinic มีรางวัลการันตีในการทำโปรแกรมอย่างหลากหลาย
3.Rassapoom Clinic ใช้เครื่องแท้และเครื่องที่ได้รับมาตรฐานเช่นเครื่อง Super Skin Laser เครื่องรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
4.Rassapoom Clinic เป็นคลินิกอันดับต้นของประเทศได้มาตรฐานทั้งความสะอาดและมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
5.Rassapoom Clinic มีอุปกรณ์เครื่องและโปรแกรมที่ทันสมัยพร้อมสำหรับการแก้ทุกปัญหาเกี่ยวกับความสวยงามให้กับคนไข้ทุกท่านทั้งยังมีหลายโปรแกรมให้รักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดผลดีและเร็วที่สุด
6.Rassapoom Clinic มีการบริการหลังการขายในการดูแลฝ้า กระ และจุดด่างดำที่ดีและได้มาตรฐานเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนไข้ทุกท่าน
7.Rassapoom Clinic เป็นคลินิกที่ทำการวิเคราะห์เคสต่อเคสตามปัญหาจริง และสภาพผิวที่เป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำจริงของคนไข้
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นปัญหาใด จะฝ้า กระ และจุดด่างดำลองมาปรึกษาที่ Rassapoom Clinic บอกความกังวลที่มีในใจ และให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คำปรึกษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามความต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่โปรแกรม Super Skin Laser รักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ยังมีโปรแกรมอีกมากมายให้คนไข้ได้เลือกสรรตามความพึงพอใจ