REVIVE HYA สารเติมเต็มสุดฮิตที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวตัวแรกของโลก
อากาศร้อน ผิวหน้า หน้าไม่ชุ่มชื้น ผิวสุขภาพไม่ดีอันเนื่องมาจากสภาพอากาศนับเป็นตัวการใหญ่ในการก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ปัญหาหลักของชาวไทยจากการสำรวจคือปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นหรือผิวขาดน้ำนั่นเอง วิธีแก้ไขนั้นมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป โดยวิธีล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมและฮ๊อตฮิตที่สุดในการเติมน้ำให้ผิวคือการฉีด REVIVE เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้านั่นเอง
REVIVE เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนำเข้าประเทศไทยโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Merz Aesthetics ผู้ผลิต HYA หรือสารเติมเต็มนวัตกรรมลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BELOTERO คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) BELOTERO ซึ่งเป็นแบรนด์สารเติมเต็ม จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน ด้วยพื้นฐานของไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) หรือสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผิวหนังตามธรรมชาติของทุกคน มีคุณสมบัติเป็นสารอุ้มน้ำโดยการเข้าไปทดแทนคอลลาเจนธรรมชาติบนใบหน้า ทำให้เกิดการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาเติมเต็ม มีการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุดรวมทั้งให้ผลลัพธ์เกิดประสิทธิภาพมากที่มากสุด
โดยแต่ละรุ่นแยกตามความเหมาะสมในการใช้งานได้ ดังนี้
• กล่องสีชมพู (BELOTERO INTENSE) สำหรับริ้วรอยลึกมากบริเวณร่องแก้ม มุมปาก และเส้นแนวตั้งจากมุมปากลงมายังคาง
• กล่องสีม่วง (BELOTERO VOLUMN) ช่วยแก้ปัญหาหน้าตอบไร้วอลุมและหย่อนคล้อย เช่น บริเวณโหนกแก้มและคาง
• กล่องสีเขียว (BELOTERO HYDRO) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยจะเน้นบริเวณลำคอ เนินอกและมือ
• กล่องสีฟ้า (BELOTERO REVIVE) มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ที่ทรงพลังให้กับผิวหน้า ปรับให้ผิวหน้าดี (Face Skin Quality) ช่วยให้ผิวดูเนียนเด้ง อิ่มฟู ชุ่มชื้นลดการสร้างเม็ดสีผิว (การเปลี่ยนสีซึ่งมักเกิดจากแสงแดด) และเพิ่มความฉ่ำวาว หรือเรียกได้ว่าเป็นการให้ผลลัพธ์แบบ 4 มิติ (4D) แยกได้ดังนี้
• Skin firmness ผิวกระชับ แน่น
• Skin surface eveness ผิวเรียบเนียน
• Skin Glow ผิวกระจ่างใส แวววาว
• Skin Tone eveness สีผิวสม่ำเสมอ ไร้จุดด่างดำ
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
REVIVE เป็น HYA งานคุณภาพผิวตัวแรกของโลกที่รวบรวมประสิทธิภาพของ 2 ส่วนประกอบหลักที่มากไปด้วยคุณภาพได้แก่
1.Hyaluronic Acid ให้ความชุ่มชื้นเป็นคุณสมบัติสำคัญของผิวที่แข็งแรงและได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางว่าช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวเมื่อฉีดเข้าไป กรดไฮยาลูโรนิกมีส่วนทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ มีความสำคัญต่อกระบวนการของเซลล์ เช่น การเพิ่มจำนวน การแยกตัว และการย้ายถิ่นของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งทำให้เกิดการสังเคราะห์คอลลาเจนและส่วนประกอบอื่นๆ เพิ่มขึ้น อีกทั้งเมทริกซ์นอกเซลล์ (ECM) ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนกว่าวัย
2.Glycerol ความชุ่มชื้นในตระกูลโพลีแอลกอฮอล์ ช่วยสร้างความชุ่มชื้นที่ยาวนานให้กับผิว เนื่องจากช่วยส่งเสริมการดูดซึมน้ำจากชั้นผิวหนังแท้ถึงชั้นสตราตัม คอร์เนียม ให้ความชุ่มชื้น จากภายในสู่ภายนอก กลีเซอรอลจะช่วยเพิ่มศักยภาพของกรดไฮยาลูโรนิก โดยการเสริมสร้างเมทริกซ์ของกรดไฮยาลูโรนิก กักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวได้ยาวนาน เพิ่มความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 2 in 1 Power ซึ่งมีประสิทธิภาพรวมคือมีประสิทธิภาพในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหาในระยะเริ่มแรกจากการถูกทำลายโดยแสงแดดและมลภาวะต่างๆ โดย REVIVE มีคุณสมบัติเหมาะกับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวขาดความยืดหยุ่น และความกระชับ รวมถึงมีปัญหาริ้วรอยหรือร่องชนิดตื้นบนใบหน้า ด้วยคุณสมบัติเติมน้ำให้ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าอย่างเต็มขั้น
REVIVE มีโมเลกุลที่ชอบน้ำ 37.5 มก./มล. หรือแบ่งเป็น Cross-linked HA (Hyaluronic Acid) 20 mg./ ml และ Glycerol 17.5 mg./ ml นั่นเอง
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE ทำงานอย่างไร?
การฉีด BELOTERO REVIVE ลงไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมสารเติมเต็มที่มีพื้นฐานของไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ใต้ผิวหนังที่ต้องการโดยกรดไฮยาลูโรนิกแอซิดชนิดฉีดจะเป็นสารที่ดูดซึมรักษาและฟื้นฟูผิวหนังที่ถูกทำลายจากปัจจัยต่างๆ ไม่ทำให้ใบหน้าแห้งกร้าน และปรับสภาพผิวให้ดูดีขึ้นได้เป็นอย่างดี
BELOTERO REVIVE ต่างจาก HYA หรือสารเติมเต็มอื่นๆ อย่างไร ?
BELOTERO REVIVE ต่างจาก HYA หรือสารเติมเต็มอื่นๆ เนื่องจากสารเติมเต็มชนิดอื่น ต้องฉีดให้ถูกชั้นผิวที่ Mid To Deep Dermis กล่าวคือต้องฉีดลงผิวหนังชั้นลึกเพื่อเติมเต็ม หรือเพิ่มในบริเวณที่ต้องการแต่ BELOTERO REVIVE เป็นการฉีดเพื่อให้ Hyaluronic acid และ Glycerol เป็นตัวช่วยในการดึงความชุ่มชื้นให้ผิวหนังทั้งหมด รวมทั้งช่วยเติมเต็มผิวหน้า เสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง รวมทั้ง REVIVE ยังลดและแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ บริเวณใบหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ กระชับ เปล่งปลั่งอีกครั้งโดยเน้นเป็นการแก้ไขเฉพาะจุด ซึ่ง REVIVE นั้นเป็นการแก้ปัญหาผิวหน้า กอบกู้ปัญหาผิวหน้าในแบบภาพรวมให้ออกมาดีที่สุดนั่นเอง
วิธีการฉีด BELOTERO REVIVE
เป็นการฉีดตามจุดที่แพทย์กำหนดทั่วทั้งใบหน้า โดยแพทย์จะปล่อยตัวยา REVIVE บริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ให้เป็นจุดกระจายทั่วใบหน้า โดยอาศัยความแม่นยำของแพทย์ในการคำนวณแต่ละจุด
ปริมาณการฉีด BELOTERO REVIVE ในแต่ละครั้ง ?
เนื่องจาก BELOTERO REVIVE เป็นสารเติมเต็มประเภท HYA ดังนั้นทุกการเข้ารับบริการต้องผ่านการประเมินปริมาณของยาโดยแพทย์อีกทั้งเมื่อรวมกับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่านแล้วอาจส่งผลให้ใช้ยาในปริมาณที่น้อยลงได้
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE มีผลลัพธ์ยาวนานเท่าไร ?
• Skin Hydration ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานถึง 9 เดือน
• Skin Glow ผิวหน้าใส เปล่งประกายมากขึ้นยาวนานถึง 9 เดือน
• Skin Elasticity ผิวยืดหยุ่นยาวนานถึง 7 เดือน
• Skin Firmness ผิวกระชับมากยิ่งขึ้นยาวนานถึง 7 เดือน
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE เหมาะกับใคร ?
• ผู้ที่มีริ้วรอย
• ผู้ที่มีผิวแห้งขาดน้ำ
• ผิวขาดความยืดหยุ่น
• ผู้ที่มีผิวไม่กระชับ
• ผู้ที่มีร่องลึกแบบตื้น
• ผู้ที่ต้องการเติมน้ำให้ผิวที่แห้งกร้านหยาบกร้าน
• ผู้ที่ปรับปรุงความยืดหยุ่น
• ผู้ที่มีรอยแดง
• ผู้ที่ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด
ต้องมีอายุเท่าไรถึงจะฉีด BELOTERO REVIVE ได้ ?
ผู้ที่ต้องการมีผิวอิ่มฟูฉ่ำน้ำดูอ่อนกว่าวัย โดยสามารถเข้ารับบริการในการฉีด BELOTERO REVIVE ได้ตั้งแต่มีผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นการฉีดเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิวขาดน้ำในอนาคตเมื่อเข้าสู่วัยที่ผิวเริ่มขาดน้ำ ยุบตัว หรือ ร่วงโรยตามวัยผู้ที่เริ่มฉีด BELOTERO REVIVE ตั้งแต่ยังอายุไม่มากจะเป็นผู้ที่อายุผิวแก่ตัวลงช้ากว่าปกติ
ในกลุ่มที่เริ่มประสบปัญหาผิวมากขึ้นคือวัย 28 ปีขึ้นไปสามารถเข้ารับบริการในการแก้ปัญหาผิวที่เริ่มเกิดขึ้นอีกทั้งยังช่วยในการยืดอายุผิวปรับให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกได้ในระยะยาวอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนการฉีด BELOTERO REVIVE
• งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ยาแอสไพริน และวิตามินอี ก่อนการฉีด BELOTERO REVIVE 5 – 7 วัน ก่อนทำการฉีดเนื่องจากเป็นการลดอาการเลือดออกง่ายอีกทั้งยังป้องกันการเกิดอาการช้ำจากเข็มอีกด้วย
• งดดื่มแอลกฮอล์ และ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกาย cardio เป็นเวลา 24 ชม.ก่อนทำ
ความรู้สึกระหว่างฉีด BELOTERO REVIVE
ระหว่างในขั้นตอนการฉีด BELOTERO REVIVE จะมีความเจ็บเพียงเล็กน้อยในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการมีความกลัวสามารถใช้วิธีการแปะยาชาก่อนทำการฉีด BELOTERO REVIVE หรือใช้การประคบเย็นร่วมด้วยได้)
การปฏิบัติตัวหลังทำ BELOTERO REVIVE
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ไม่ควรจับบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา และ การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการช้ำจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้อยู่ห่างจากความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชม.
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ห้ามเข้าซาวน่า
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดออกกำลังกายหนัก
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ไม่ควรงดตากแดด
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดดื่มแอลกอฮอล์ขั้นต่ำ 7 วัน
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดการแต่งหน้าขั้นต่ำ 24 ชั่วโมง
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดกินอาหารหมักดองอาหารรสจัดและอาหารดิบขั้นต่ำ 2 สัปดาห์
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดนวดหน้า ทรีตเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้าขั้นต่ำ 1 เดือน
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดทาครีมบำรุงผิว 7 วัน
• หลังทำ BELOTERO REVIVE ให้งดทำความสะอาดหน้าด้วยการถู หรือทำให้เกิดการระคายเคือง
ควรฉีด BELOTERO REVIVE กี่ครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ?
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรฉีด BELOTERO REVIVE ต่อเนื่องทุกๆ 6 – 9 เดือนเพื่อเป็นการรักษาและฟื้นฟูผิวหน้าให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ใครที่ไม่สามารถฉีด BELOTERO REVIVE ได้ ?
• ผู้ที่เคยมีอาการอักเสบ หรือติดเชื้อรุนแรง หลังจากการฉีดสารเติมเต็มชนิดอื่น
• ผู้ที่สงสัยว่ามีการแพ้สารในกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด หรือยาชาในกลุ่ม lidocaine
• ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวช
• ผู้ที่เพิ่งผ่านการทำทรีตเม้นท์ ลอกผิวหน้ามา ภายในระยะเวลา 7 วัน
• ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยาห้ามเลือดแข็งตัว
• หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
• ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ เช่นโรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังต่างๆ
• ผู้ป่วยโรคมะเร็ง SLE
หากมีการแพ้ BELOTERO REVIVE จะมีอาการอย่างไร ?
อาการแพ้ BELOTERO REVIVE จะเป็นการแพ้สารบางอย่างในสารเติมเต็ม โดยโอกาสที่จะพบผู้ที่แพ้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid นั้นมีโอกาสในการแพ้น้อยกว่า 1% นับว่าเป็นโอกาสที่น้อยมาก
โดยสามารถแบ่งอาการแพ้สารเติมเต็มได้ 2 รูปแบบ
1.อาการลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) : จะแสดงอาการแพ้ชัดเจนเห็นลมพิษขึ้นมาทางผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด รับรู้ได้ทันทีว่ามีอาการผิดปกติบริเวณผิวหนัง
2.อาการแพ้ Hyaluronic Acid (Delay Hypersensitivity) : อาการแพ้ Hyaluronic Acid ชนิดนี้จะแสดงอาการให้เห็นเป็นผิวหนังเป็นก้อนบวม นูนแดงลักษณะคล้ายการอักเสบ มักเกิดอาการ ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนไปแล้ว สามารถรักษาอาการเบื้อต้นได้โดยการรับทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อบรรเทาอาการบวมได้ หากมีอาการแสดงมากขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE ต่างจาก REJURAN อย่างไร ?
REJURAN ผลิตจากโพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) หรือ DNA จากปลาแซลมอน โดยการนำเข้าสู่ผิวโดยการแทนที่ผิวเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการฟื้นฟู และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เน้นการปรับโครงสร้างผิว ทำให้ผิวโกลว์ ซ่อมแซมให้ผิวแน่นขึ้นจากชั้นใต้ผิวหนัง โดยต้องเข้ารับการฉีดอย่างต่อเนื่องและครบปริมาณที่แนะนำ เพื่อให้ผิวค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟู เป็นการลดการอักเสบของผิว ซ่อมแซมผิวในระดับเซลล์ เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีและมีผลลัพธ์อยู่ได้ 3 – 6 เดือน
BELOTERO REVIVE จึงมีความอุ้มน้ำมากกว่าด้วยความที่มีสารตั้งต้นคือ HYA หรือสารเติมเต็มที่เพิ่มพลังการอุ้มน้ำของสาร ถึง 2 ชนิด อีกทั้ง BELOTERO REVIVE ยังช่วยให้ผิวอุ้มน้ำชุ่มชื้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเนื่องจากมีส่วนผสมหลักคือ Hyaluronic Acid และ Glycerol มีผลลัพธ์อยู่ได้นานสุดถึง 9 เดือน
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE ต่างจากการฉีด MESO อย่างไร ? โดยจำแนกเป็นแต่ละยี่ห้อดังนี้
MADE Collagen เป็น MESO กลุ่มที่ช่วยลดสิว ผดผื่น การอักเสบของผิวและช่วยขับสารพิษ จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวอ่อนแอที่ต้องการฟื้นฟูผิว ให้ผิวกลับมาแข็งแรง โดย BELOTERO REVIVE จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มแบบละเอียดอ่อนที่สุดลงบนผิวหนังเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น อุ้มน้ำให้ผิว
Alpha arbutin เป็น MESO กลุ่มลดฝ้าโดยตรงจึงไม่ได้ช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า เป็นการแก้ปัญหาผิวที่มีปัญหาเพียงเท่านั้น โดยนับว่าเป็นการรักษาและแก้ปัญหาคนละจุด
Filorga / Revs เป็น MESO กลุ่มปรับสีผิว และพื้นผิวให้เรียบเนียนบริเวณชั้นด้านบนผิวชั้นบนเท่านั้น ต่างจาก BELOTERO REVIVE ที่ช่วยเพิ่มความอิ่มน้ำ แน่นฟู ให้กับผิว
Neo Glutanex Glow เป็น MESO กลุ่มปรับผิวขาวใส อมชมพู ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ หลุมสิว กระชับรูขุมขน ปรับผิวให้โกลว์ ต่างจาก BELOTERO REVIVE มีความคล้ายคลึงกันเพียงแต่ Neo Glutanex Glow ให้ระยะเวลาในการแสดงผลบนผิวหน้าที่สั้นกว่า
Tensonez / Depigment : เป็น MESO กลุ่ม ขาว ใส เห็นผลไวเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้ากระจุดด่างดำโดยเป็นการเน้นเฉพาะด้านการแก้ไขปัญหาผิว โดย BELOTERO REVIVE จะเน้นด้านฟื้นฟู เติมเต็ม ให้ผิวมีความอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น ปรับให้ผิวดูสุขภาพดี
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE ต่างจาก Skin booster อย่างไร?
Skin booster มีส่วนผสมหลักคือ สาร Hyaluronic acid โดยวิธีการคือ ฉีดในผิวหนังชั้น Superficial layer ที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวเรียบเนียน เน้นลดเลือนริ้วรอยมากกว่าด้านอื่น
BELOTERO REVIVE เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มน้ำให้กับผิวหน้าโดยผสานพลังของ Hyaluronic Acid และ Glycerol เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มฟู ฉ่ำน้ำให้กับผิวแบบขั้นสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอวดงานผิว ผิวดี ผิวฉ่ำน้ำ
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE สามารถฉีดร่วมกับโปรแกรมประเภทฉีดอื่นๆ ได้หรือไม่ ?
BELOTERO REVIVE สามารถทำการฉีดร่วมกับโปรแกรมฉีดปรับรูปหน้าเช่นสารเติมเต็ม หรือ Toxin รวมทั้งสารสลายไขมันอย่าง Meso Fat เป็นสารกลุ่มฉีดยอดนิยมได้ โดยแนะนำให้ฉีด BELOTERO REVIVE ก่อนทำการฉีดสารดังกล่าวหากทำการฉีดตัวยาดังกล่าวไปก่อนแล้ว แนะนำให้รอตัวยาออกฤทธิ์ และเข้าที่เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์จึงเข้ามารับบริการฉีด BELOTERO REVIVE ได้ตามปกติเพื่อให้แพทย์ประเมินใบหน้าในการรักษาหลังจากใบหน้าเข้าที่แล้ว
หากฉีด toxin หรือ สารเติมเต็ม ไปแล้ว สามารถฉีด Revive ในวันเดียวกันได้ ในการฉีดควรเป็นแพทย์ท่านเดียวกันเนื่องจากแพทย์จะทราบบริเวณการฉีดทำให้ฉีด Revive ได้อย่างไม่มีปัญหาและอันตราย
สารเติมเต็ม (BELOTERO REVIVE)
BELOTERO REVIVE สามารถฉีดร่วมกับการทำโปรแกรมประเภททรีตเมนต์ได้หรือไม่ ? ทรีตเมนต์หน้าสามารถแบ่งได้ดังนี้
1.ทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ
2.อัลตราซาวด์ยกกระชับผิว
3.ครีมบำรุง
4.ผลักวิตามิน
5.ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี
6.ผลัดเซลล์ผิวด้วยเลเซอร์
โดยสามารถทำร่วมกับ BELOTERO REVIVE ได้ทั้งหมดโดยอาจมีเงื่อนไขในการทำแตกต่างกันไป
ทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ
คลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy) เป็นการใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ใต้ชั้นผิว แนะนำให้ทำก่อนทำการฉีด BELOTERO REVIVE เนื่องจากหากฉีด BELOTERO REVIVE ก่อนจะทำให้ตัวเครื่องรวมทั้งคลื่น เข้าไปสลายตัวยา BELOTERO REVIVE ได้
อัลตราซาวด์ยกกระชับผิว
อัลตราซาวด์ยกกระชับผิว (Ultrasound skin tightening) เช่นโปรแกรม HIFU / Ultera /Ultraformer เป็นการใช้อุปกรณ์ที่เป็นตัวส่งคลื่นเสียงเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำความร้อนในผิวโดยมีความลึก 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ แนะนำให้ทำก่อนทำการฉีด BELOTERO REVIVE เนื่องจากหากฉีด BELOTERO REVIVE ก่อนจะทำให้ความร้อนของเครื่องอัลตราซาวด์จะเข้าไปทำการสลายตัวยา BELOTERO REVIVE ทำให้ตัวยาไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ครีมบำรุง
ครีมบำรุงนับเป็นทรีตเมนต์ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองซึ่งปกติจะทาเป็นประจำทุกวันเช้าเย็นสม่ำเสมอเพื่อช่วยบำรุงผิวหน้าให้ได้ยิ่งขึ้น โดยมีลักษณะเนื้อครีมบำรุงที่แตกต่างกันไปตามประเภทเนื้อครีมบำรุง แนะนำให้ทาครีมบำรุงภายหลังการฉีด BELOTERO REVIVE เพียง 1 วัน เพื่อรอให้รอยเข็มที่ฉีด BELOTERO REVIVE หายสนิทเพื่อป้องกันการติดเชื้อก็สามารถทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติ
ผลักวิตามิน
การผลักวิตามินเข้าผิวหน้า จะใช้เครื่องมือที่มีวิธีการทำงานคล้ายกับเครื่องอัลตราซาวด์ด้วยวิธีการปล่อยคลื่นความถี่สูงลงบนผิวหน้าภายหลังจากทาครีมบำรุงรวมทั้งวิตามินทำให้ซึมเข้าผิวได้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ทำก่อนการฉีด BELOTERO REVIVE เพื่อป้องกันความร้อนของเครื่องเข้าไปสลายหรือทำลายตัวยา ทำให้ตัวยาไม่ได้ประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร
ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peels) จะทำโดยวิธีการทาสารเคมีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้าแล้วลอกออก ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกเผยผิวใหม่ที่ดีขึ้น หากต้องการทำร่วมกับการฉีด
BELOTERO REVIVE อาจต้องรอให้ผิวเข้าที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำก่อนหรือหลังทรีตเมนต์เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวนั้นเป็นกระบวนการที่ทำให้ผิวบอบบาง
ผลัดเซลล์ผิวด้วยเลเซอร์ การทำเลเซอร์ ถูกแบ่งโดยชัดเป็น 2 ประเภทดังนี้
1.เลเซอร์ในการแก้ปัญหาผิวหน้า เป็นการยิงเลเซอร์เพื่อลดจุดด่างดำโดยการการยิงเลเซอร์ไปยังผิวหน้าชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เพื่อให้เกิดเป็นสะเก็ดและช่วยฟื้นฟูในบริเวณที่ถูกยิงด้วยเลเซอร์ ทำให้ผิวถูกสร้างขึ้นใหม่ดีขึ้น และมีคุณภาพมากขึ้น
2.เลเซอร์ในการลดเลือนริ้วรอย วิธีการคือการใช้เลเซอร์จะส่งผ่านพลังงานเข้าไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นผิวให้เร่งการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวถูกสร้างมากขึ้น จะทำให้ผิวอิ่มฟูขึ้น รวมทั้งริ้วรอยต่างๆ ยังจางลงอีกด้วย แนะนำให้ทำการเลเซอร์ก่อนเข้ารับบริการ BELOTERO REVIVE เพื่อป้องกันเลเซอร์ที่ยิงลงผิว ทำให้ BELOTERO REVIVE สลาย ยุบตัว หรือไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร
วิธีทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น สามารถทำร่วมกับการฉีด BELOTERO REVIVE ได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่มีความกังวล ร่วมกันกับการเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มน้ำให้กับผิวหน้า หากมีความกังวลสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้
ความปลอดภัยของ BELOTERO REVIVE
BELOTERO REVIVE นับเป็น Hyaluronic acid มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ 50 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง USA EU และประเทศไทย
วิธีการตรวจสอบว่า BELOTERO REVIVE เป็นของแท้หรือไม่
• เลขล็อตด้านในกล่องและด้านนอกตรงกัน
• ด้านในกล่องต้องมีเลขล็อตสีเงิน
• ด้านในกล่องจะต้องมีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย
• หน้ากล่องจะต้องระบุบริษัทนำเข้า MERZ AESTHETICS ชัดเจน
• มีภาษาไทยระบุว่าเป็นยาควบคุมพิเศษชัดเจน
• สามารถตั้งกล่องแนวตั้งเพื่อสแกนตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย
• 1 กล่อง บรรจุ 2 ไซริงค์ บรรจุไซริงค์ละ 1 cc แพ็กในซอง sterile และปิดซีลอย่างหนาแน่น
• แถบด้านสีข้างไซริงค์จะต้องตรงกับสีของกล่อง
• ท้ายกล่องจะมีวันหมดอายุระบุชัดเจน
• กล่องต้องปิดเรียบร้อยและไม่ถูกเปิดออก
• ด้านในจะต้องปิดผนึกเรียบร้อยและมีอุปกรณ์ครบถ้วน
• สามารถติดต่อตรวจสอบเลขกับบริษัท Merz Aesthetic ที่นำเข้าโดยตรง ที่เบอร์ 092-254-2662
ทั้งนี้สิ่งที่กังวลทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยการเลือกสถานที่บริการที่ได้รับความน่าเชื่อถือ แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน มีใบประกอบวิชาชีพชัดเจนเพื่อสามารถทำให้ผู้รับบริการทุกท่านไว้วางใจ กลับบ้านอย่างสบายใจได้รับความสวยกลับไปอย่างที่ใจต้องการ และได้รับความปลอดภัยที่สุดในการเข้ารับบริการ